โอปปาติกะ
จริยา ทองหอม
1 มิถุนายน 2561
บทความนี้เป็นผลจากการฟังธรรมะในวันวิสาขบูชาเทศนา @ พุทธทาสภิกขุ และเกิดความอยากรู้ในเรื่อง โอปปาติกะกำเนิดว่าเป็นอย่างไร จึงทำการสืบค้นและเกิดความมั่นใจในเรื่องพระนิพพานซึ่งเป็นอายตนะที่มีอยู่ในทุกหนทุกแห่งว่าเป็นโอปปาติกะกำเนิดแก่เรา(ผู้ปฏิบัติ)ได้เมื่อทำจิตใจให้เจริญงอกงามในธรรมจนบรรลุมรรคผลนิพพาน
1.
"โอปปาติกะ (โอ-ปะ-ปา-ติ-กา) หมายถึง การเกิดในลักษณะที่ว่า
ผลุงขึ้นมาโตเต็มที่"
2.
"โอปปาติกะ" เป็นชื่อของการกำเนิดอย่างหนึ่งเท่านั้น เป็นชื่อของกิริยาอาการที่เกิด
3.
"โอปปาติกะ" เป็นกิริยาอาการที่เกิดผลุงขึ้นมา
กิริยาอาการ
"โอปปาติกะ" เกิดขึ้นเมื่อมีสติปัญญา
เช่น เมื่อจิตคิดอย่างเทวดา
ก็เกิดผลุงเป็นเทวดา เมื่อจิตคิดอย่างพรหม
ก็เกิดผลุงเป็นพรหม กล่าวคือ เมื่อจิตมีความรู้สึกเป็นอย่างพรหม จิตก็อยู่ในสภาพพรหม ก็เกิดเป็นพรหมขึ้นมาในจิตใจนี้
ถ้าเราทำจิตของเราให้รองรับพุทธภาวะได้โดยทำให้มีโอปปาติกะกำเนิดแก่เรา(ผู้ปฏิบัติ)
เช่นเดียวกับ
ที่โอปปาติกะกำเนิดเกิดเป็นพระพุทธเจ้าผลุงขึ้นมาแก่พระพุทธเจ้าอย่างไร เราก็ทำให้มีโอปปาติกะกำเนิดเช่นนั้นในจิตใจของเรามีความรู้แจ้งเห็นแจ้งในธรรมะผลุงขึ้นมาอย่างนี้ เรา(ผู้ปฏิบัติ)ก็เกิดเป็นพุทธบุคคลขึ้นมา เป็นเรื่องของจริงตามธรรมชาติ ถ้าจิตนี้ได้รับการอบรม ศึกษา ปฏิบัติถูกต้องถึงที่สุดแล้ว โอกาสหนึ่งก็จะมีโอปปาติกะกำเนิดผลุงขึ้นมาสำหรับจิตนั้นเกิดเป็นพุทธบุคคลทั่วไป เรียกว่า อนุพุทธะหรือพระสาวกพุทธะซึ่งเป็นผู้รับคำสอนจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาปฏิบัติตามจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ เมื่อพุทธภาวะมาปรากฏในจิตของเรา(ผู้ปฏิบัติ) เราก็มีพระพุทธเจ้าอยู่ในจิตนั้น จิตนั้นก็พ้นจากทุกข์ จิตนั้นก็อยู่อย่างไม่ต้องเป็นทุกข์ ถ้าทำได้อย่างนี้ เรียกว่า ผู้นั้นอยู่กับพระพุทธเจ้า เข้าถึงพระนิพพานซึ่งเป็นอายตนะที่มีอยู่ในทุกหนทุกแห่ง การทำจิตใจให้เจริญงอกงามก้าวหน้าในธรรม จนบรรลุธรรม ที่เรียกว่า บรรลุมรรคผลนิพพาน ก็จะสามารถสัมผัสกับพระนิพพานซึ่งเป็นอายตนะที่มีอยู่ในทุกหนทุกแห่ง ตอนนั้นก็เกิดเป็นพระพุทธเจ้ากันแล้ว มีพระพุทธเจ้าจริง อยู่กับพระพุทธเจ้าจริง เรื่องมันก็จบเท่านั้น
ที่โอปปาติกะกำเนิดเกิดเป็นพระพุทธเจ้าผลุงขึ้นมาแก่พระพุทธเจ้าอย่างไร เราก็ทำให้มีโอปปาติกะกำเนิดเช่นนั้นในจิตใจของเรามีความรู้แจ้งเห็นแจ้งในธรรมะผลุงขึ้นมาอย่างนี้ เรา(ผู้ปฏิบัติ)ก็เกิดเป็นพุทธบุคคลขึ้นมา เป็นเรื่องของจริงตามธรรมชาติ ถ้าจิตนี้ได้รับการอบรม ศึกษา ปฏิบัติถูกต้องถึงที่สุดแล้ว โอกาสหนึ่งก็จะมีโอปปาติกะกำเนิดผลุงขึ้นมาสำหรับจิตนั้นเกิดเป็นพุทธบุคคลทั่วไป เรียกว่า อนุพุทธะหรือพระสาวกพุทธะซึ่งเป็นผู้รับคำสอนจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาปฏิบัติตามจนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ เมื่อพุทธภาวะมาปรากฏในจิตของเรา(ผู้ปฏิบัติ) เราก็มีพระพุทธเจ้าอยู่ในจิตนั้น จิตนั้นก็พ้นจากทุกข์ จิตนั้นก็อยู่อย่างไม่ต้องเป็นทุกข์ ถ้าทำได้อย่างนี้ เรียกว่า ผู้นั้นอยู่กับพระพุทธเจ้า เข้าถึงพระนิพพานซึ่งเป็นอายตนะที่มีอยู่ในทุกหนทุกแห่ง การทำจิตใจให้เจริญงอกงามก้าวหน้าในธรรม จนบรรลุธรรม ที่เรียกว่า บรรลุมรรคผลนิพพาน ก็จะสามารถสัมผัสกับพระนิพพานซึ่งเป็นอายตนะที่มีอยู่ในทุกหนทุกแห่ง ตอนนั้นก็เกิดเป็นพระพุทธเจ้ากันแล้ว มีพระพุทธเจ้าจริง อยู่กับพระพุทธเจ้าจริง เรื่องมันก็จบเท่านั้น
น้อมนำบุญมาฝากกัลยาณมิตรทุกท่านในการเผยแผ่ธรรม
ขอเดชะตั้งจิตอุทิศผล บุญกุศลแผ่ไปให้ไพศาล
ถึงบิดามารดาครูอาจารย์ ทั้งลูกหลานญาติมิตรสนิทกัน
คนเคยร่วมทำงานการทั้งหลาย มีส่วนได้ในกุศลผลของฉัน
ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวัญ ขอให้ท่านได้กุศลผลนี้เทอญฯ
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ
คนเคยร่วมทำงานการทั้งหลาย มีส่วนได้ในกุศลผลของฉัน
ทั้งเจ้ากรรมนายเวรและเทวัญ ขอให้ท่านได้กุศลผลนี้เทอญฯ
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.buddhadasa.com/FAQ/FAQ_2122.html - ความเร้นลับของโอปปาติกะกำเนิด
https://www.youtube.com/watch?v=fKlDlCoHI2o - วิสาขบูชาเทศนา @ พุทธทาสภิกขุ