☆☆
ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
☆☆
☆ ..... ☆
โดย:
จริยา ทองหอม
07-15 ธันวาคม 2559
☆ ..... ☆
☆☆
ปรัชญาการศึกษาของพ่อ ☆☆
.....
"...การศึกษาเป็นเครื่องมือของการพัฒนาความรู้
ความคิด ความประพฤติ ทัศนคติ ค่านิยม และคุณธรรมของบุคคล
นำไปสู่การพัฒนาความรู้ทั้งในทางวิชาการ และในทางธรรม และนำไปสู่จุดหมายที่ดีงาม
ถูกต้อง และสมบูรณ์ในตัวเอง เป็นประโยชน์แก่บุคคล สังคม ส่วนรวม และประเทศชาติ..."
.....
ที่มา:
พระราชดำริด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
สืบค้นเมื่อ
27 พฤศจิกายน 2559. จาก http://www.moe.go.th/5DEC/index.php?option
=com_content&view=article&id=26&Itemid=32
.....
☆☆ ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ☆☆
.....
พระบรมราโชวาทเกี่ยวกับการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชที่ทรงพระราชทานให้แก่คณะบุคคลในวโรกาสต่าง
ๆ ตลอดรัชสมัยของพระองค์เป็นปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่สะท้อนถึงปรัชญาการศึกษาของพระองค์ที่ทรงแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างการศึกษา
วิชาความรู้ และผลแห่งการสร้างความรู้ กล่าวคือ
การศึกษาเป็นเครื่องมือของการพัฒนาความรู้ ความคิด ความประพฤติ ทัศนคติ ค่านิยม
และคุณธรรมของบุคคล นำไปสู่การพัฒนาความรู้ทั้งในทางวิชาการ และในทางธรรม
และนำไปสู่จุดหมายที่ดีงาม ถูกต้อง และสมบูรณ์ในตัวเอง เป็นประโยชน์แก่บุคคล สังคม
ส่วนรวม และประเทศชาติ การน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระองค์มาศึกษา
ปฏิบัติเพื่อเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษาที่มีคุณภาพทั่วถึงและเป็นธรรมแก่เด็กเยาวชนทุกคนตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงมัธยมศึกษา
รวมทั้งการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่ประชาชนทุกคนจะเป็นหลักประกันที่ช่วยธำรงไว้ซึ่งความเจริญก้าวหน้าและความมั่นคงของชาติตลอดไปอันเป็นเป้าหมายสูงสุดของพระราชดำรัสที่ทรงพระราชทานไว้ตลอดรัชสมัยของพระองค์
เป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างยั่งยืนตามมติการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ
ครั้งที่ 70 ที่เน้นการเปลี่ยนแปลงโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2573 (Transforming Our World: The 2030 Agenda for
Sustainable Development) สอดคล้องกับวิสัยทัศน์การพัฒนาประเทศไทย
“มั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน” และการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อขจัดปัญหาความยากจน
ลดความเหลื่อมล้ำ นำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศระหว่างปี พ.ศ.2558-2563
.....
ที่มา: จริยา ทองหอม.
(2559 ธันวาคม 07). ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช.
จาก https://www.facebook.com/profile.php?id=100001093292112
กระทรวงศึกษาธิการ.
(2554 มิถุนายน 15). พระราชดำริด้านการศึกษาของรัชกาลที่ 9.
สืบค้นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2559.
จาก http://www.moe.go.th/5DEC/index.php?option
=com_content&view=article&id=26&Itemid=32
โอเคเนชั่น.
(2558 กันยายน 22). การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ
สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 ณ นครนิวยอร์ค. สืบค้นเมื่อ 20 พฤศจิกายน 2559. จาก http://oknation.nationtv.tv/blog
☆
..... ☆
☆☆ ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ☆☆
.....
ความหมายของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทเกี่ยวกับความหมายของปรัชญาการศึกษา
ความตอนหนึ่งว่า
"...การที่มีการศึกษาสมบูรณ์แล้วนี้ทำให้แต่ละคนหลีกเลี่ยงไม่ได้จากความรับผิดชอบที่จะต้องใช้ความรู้
สติปัญญาของตนให้เป็นประโยชน์และเป็นความเจริญวัฒนาแก่บ้านเมืองและส่วนรวม..." (๑๒ กรกฎาคม ๒๕๑๖) พระองค์ทรงมีพระราชดำริเกี่ยวกับความหมายของการศึกษา
ความตอนหนึ่งว่า "...การศึกษาเป็นเครื่องมืออันสำคัญในการพัฒนาความรู้
ความคิด ความประพฤติ ทัศนคติ ค่านิยม และคุณธรรมของบุคคลเพื่อให้เป็นพลเมืองดี มีคุณภาพ
และประสิทธิภาพ การพัฒนาประเทศก็ย่อมทำได้สะดวกราบรื่นได้ผลที่แน่นอนและรวดเร็ว..."
(๒๒ กรกฎาคม ๒๕๒๐) ดังที่ ยูเนสโก (2549)
ได้อธิบายว่า การศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน หมายถึง
การศึกษาที่นักเรียนจะได้เรียนรู้ทักษะ สมรรถนะ ค่านิยมและสรรพวิทยาการที่ต้องการ
เป็นการศึกษาทุกระดับชั้นในทุกบริบทของสังคม เช่น การศึกษาในครอบครัว โรงเรียน
สถานที่ทำงาน ชุมชน รวมทั้งการเรียนรู้ตลอดชีวิต
และการศึกษาที่ช่วยสร้างสมดุลย์ในการพัฒนาปัจเจคบุคคล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาการศึกษาที่สมบูรณ์ที่มีความครบถ้วนในตัวเองทั้งองค์ความรู้และการใช้ความรู้เพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม
ซึ่งเป็นการศึกษาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมุ่งหวังให้เกิดขึ้นในพสกนิกรและประเทศชาติของพระองค์
(กระทรวงศึกษาธิการ. 2554)
☆.....☆
ที่มา: จริยา ทองหอม.
(2559 ธันวาคม 08). ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช.
จาก https://www.facebook.com/profile.php?id=100001093292112
กระทรวงศึกษาธิการ.
(2554 มิถุนายน 15). พระราชดำริด้านการศึกษาของรัชกาลที่ 9.
สืบค้นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2559.
จาก http://www.moe.go.th/5DEC/index.php?option
=com_content&view=article&id=26&Itemid=32
ยูเนสโก.
(2549). ยูเนสโกกับการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน.
ข่าวสำนักงานคณะผู้แทนถาวรไทยประจำ
ยูแนสโก. (13 มิถุนายน 2549).
☆.....☆
☆☆
ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ☆☆
.....
ขอบเขตของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
.....
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงอธิบายขอบเขตของการศึกษา
ความตอนหนึ่งว่า "...การศึกษานั้นเป็นเรื่องของทุกคน
และไม่ใช่เฉพาะในระยะหนึ่ง เป็นหน้าที่โดยตรงในระยะเดียว ไม่ใช่อย่างนั้น
ตั้งแต่เกิดมาก็ต้องศึกษา เติบโตขึ้นมาก็ต้องศึกษา จนกระทั่งถึงขั้นที่เรียกว่าอุดมศึกษา
อย่างที่ท่านทั้งหลายกำลังศึกษาอยู่ หมายความว่าการศึกษาที่ครบถ้วน ที่อุดม
ที่บริบูรณ์ แต่ต่อไปเมื่อออกไปทำหน้าที่การงานก็ต้องศึกษาต่อไปเหมือนกัน
มิฉะนั้นคนเราก็อยู่ไม่ได้ แม้จบปริญญาเอกแล้วก็ต้องศึกษาต่อไปตลอด หมายความว่า
การศึกษาไม่มีสิ้นสุด..." (๒๐ เมษายน ๒๕๒๑)
พระราชดำรัสองค์นี้ชี้ถึงขอบเขตการศึกษาที่ครอบคลุมชีวิตของบุคคลตั้งแต่เกิดจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
ครอบคลุมทุกเรื่องและทุกเวลาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์
ซึ่งขอบเขตของการศึกษาตามแนวพระราชดำรัสนี้สะท้อนให้เห็นว่าการศึกษาเป็นหัวใจของชีวิตมนุษย์
และการศึกษาเป็นเครื่องนำทางที่สำคัญของมนุษย์ให้ไปสู่การพัฒนาคุณภาพตนเอง
และให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติโดยรวม
☆.....☆
ที่มา:
จริยา ทองหอม. (2559 ธันวาคม 09). ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช.
จาก https://www.facebook.com/profile.php?id=100001093292112
กระทรวงศึกษาธิการ.
(2554 มิถุนายน 15). พระราชดำริด้านการศึกษาของรัชกาลที่ 9.
สืบค้นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2559.
จาก http://www.moe.go.th/5DEC/index.php?option
=com_content&view=article&id=26&Itemid=32
☆.....☆
☆☆
ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ☆☆
.....
หลักการของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
.....
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงกล่าวถึงหลักการศึกษาที่ให้ความรู้
ความสามารถและนำไปสู่การทำให้ตนเองเป็นคนที่สมบูรณ์ ความตอนหนึ่งว่า "..หลักอย่างหนึ่งที่สำคัญที่สุดคือ
หลักของเหตุผล และจะต้องขัดเกลาตลอดเวลา
มิฉะนั้นจะมีวิชาความรู้เท่าไรก็ตามก็ไม่สามารถนำไปเป็นประโยชน์แก่ตัวแก่ส่วนรวมได้… หลักของเหตุผลมีหลักการว่าถ้ามีสิ่งใดที่เราต้องเผชิญ
ต้องพบ ต้องมีเหตุผลทั้งสิ้น คำนี้มีสองคำ เหตุคือต้นของสิ่งที่เราเผชิญและผลเป็นสิ่งที่ต่อเนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นแก่เรา
ถ้าเราเผชิญสิ่งใดและเราพิจารณาด้วยเหตุผล ต่อไปเราก็จะเผชิญสิ่งที่ถูกต้อง..."(๒๖
มิถุนายน ๒๕๑๙) พระราชดำรัสนี้ ทรงสะท้อนความสัมพันธ์เชิงเหตุและผลที่เป็นหลักการสำคัญของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนว่าการศึกษาเป็นเรื่องของการค้นหาเหตุและผลของสิ่งต่างๆหรือปรากฎการณ์ต่างๆเมื่อสามารถค้นพบสาเหตุแล้วย่อมจะเข้าใจถึงผลที่เกิดตามมา
☆.....☆
ที่มา:
จริยา ทองหอม. (2559 ธันวาคม 10). ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช.
จาก https://www.facebook.com/profile.php?id=100001093292112
กระทรวงศึกษาธิการ.
(2554 มิถุนายน 15). พระราชดำริด้านการศึกษาของรัชกาลที่ 9.
สืบค้นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2559.
จาก http://www.moe.go.th/5DEC/index.php?option
=com_content&view=article&id=26&Itemid=32
☆.....☆
☆☆
ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ☆☆
.....
ทฤษฎีของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
.....
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงพระราชทานพระบรมราโชวาทที่สะท้อนถึงทฤษฎีของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนไว้
ดังเช่น
ทรงเปรียบการเรียนรู้ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติว่า "...ผู้ไม่มีทฤษฎีเป็นผู้ไม่มีหลักความรู้
สู้ผู้มีทฤษฎีไม่ได้เพราะไม่มีความรู้เป็นทุนรอนสำหรับทำงาน
แต่ผู้มีทฤษฎีที่ไม่หัดปฏิบัติหรือไม่ยอมปฏิบัตินั้นก็สู้นักทฤษฎีที่ปฏิบัติด้วยไม่ได้
เพราะนักทฤษฎีที่ไม่ยอมปฏิบัติทำให้ตัวเองพร้อมทั้งวิชาความรู้ทั้งหมดเป็นหมันไป
ไม่ได้ประโยชน์ ไม่เป็นที่ต้องการของใคร ผู้มีความรู้ด้วย
ใช้ความรู้ทำงานได้จริงๆจึงจะเป็นประโยชน์และเป็นที่ต้องการ..." (๒๒ มิถุนายน
๒๕๒๐) ดังที่กล่าวกันว่าเป็นการเรียนและการใช้วิชาการในลักษณะ
"...สหวิทยาการ (multidiscipline)
เพราะวิชาทั้งหลายเกี่ยวโยงถึงกันเป็นส่วนประกอบของกันและกัน
เป็นปัจจัยอุดหนุนกันและกันอย่างแน่นแฟ้น..." (๓ ตุลาคม ๒๕๑๘) ในมิติของสหวิทยาการแบ่งความรู้ออกเป็นความรู้ระหว่างบุคคลกับความรู้ระหว่างวิชา
พระองค์ทรงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการใช้ความรู้ลงสู่การปฏิบัติให้เกิดผล ทรงชี้ถึงการใช้ความรู้เพื่อการปฏิบัติว่า "...ทุกคนมีความรู้ต้องใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
เพราะว่าถ้าความรู้นั้นร่วมมือใช้ในทางที่ถูกก็จะเกิดคุณอย่างมหาศาลทั้งแก่ตนเอง
ทั้งแก่ส่วนรวม
ฉะนั้นแต่ละคนที่ได้เรียนในแขนงของตนก็ย่อมต้องปฏิบัติงานเพื่อตนเองและเพื่อส่วนรวมนั้นก็ต้องมีความเข้าใจระหว่างบุคคล
ระหว่างวิชา ดังนั้น ในการปฏิบัติงานทุกด้าน
การเตรียมตัวพร้อมการร่วมมือเป็นอันสำคัญอยู่เสมอ..." (๒๕ มิถุนายน ๒๕๑๕) การนำทฤษฎีต่างๆ มาประยุกต์เข้าด้วยกันเพื่อนำไปใช้ปฏิบัติจึงเป็นสิ่งจำเป็น
ทรงแนะนำวิธีการประยุกต์ทฤษฎีสู่การปฏิบัติไว้สองประการ ได้แก่ 1)
การปรับทฤษฎีให้เข้ากับการปฏิบัติโดยจะต้องวิเคราะห์ปัญหาการปฏิบัติให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อน
และ 2) การประสานกับทฤษฎีของวิชาอื่นๆ
เข้าด้วยกันเพื่อช่วยให้สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือความจริงที่เผชิญได้อย่างถูกต้องเหมาะสมมากขึ้น
และนำไปสู่การได้หนทางหรือวิธีการแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องเป็นผลสำเร็จ
พระองค์ทรงอธิบายเรื่องนี้ว่า
"...วิชาการทั้งปวงนั้นถึงจะมีประเภทมากมายเพียงใดก็ตาม แต่เมื่อนำมาใช้สร้างสรรค์สิ่งใดก็ต้องใช้ด้วยกัน
หรือต้องนำมาประยุกต์เข้าด้วยกันเสมอ ตัวอย่างเช่น อาหารที่เรารับประทาน
กว่าจะสำเร็จขึ้นมาให้รับประทานได้
ต้องอาศัยวิชาประสมประสานกันหลายอย่างและต้องผ่านการปฏิบัติมากมายหลายอย่างหลายตอน
ดังนั้น วิชาต่างๆมีความสัมพันธ์ถึงกันและมีอุปการะแก่กันทั้งฝ่ายวิทยาศาสตร์และฝ่ายศิลปศาสตร์
ไม่มีวิชาใดที่นำมาใช้ได้โดยลำพัง หรือเฉพาะอย่างได้เลย..." (๓ สิงหาคม ๒๕๒๑) หมายความว่าการนำวิชาการสาขาต่างๆเข้ามาประกอบกันเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานได้สำเร็จเป็นสิ่งที่จำเป็น
เมื่อการพัฒนาทฤษฎีหรือวิชาการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เกิดผลต่อการปฏิบัติจริง
ก็จะนำมาซึ่งความรู้ใหม่ที่มีการพัฒนาความรู้เดิมให้สูงขึ้น พระองค์ทรงอธิบายการสะสมความรู้นี้ว่า "...วิทยาการทุกอย่างมิใช่มีขึ้นในคราวหนึ่งคราวเดียวได้
หากแต่ค่อยๆสะสมกันมาทีละเล็กละน้อยจนมากมายกว้างขวาง การเรียนวิทยาการก็เช่นกัน
บุคคลจำจะต้องค่อยๆเรียนรู้ให้เพิ่มพูนขึ้นนั้นเกิดเป็นรากฐานรองรับความรู้ที่สูงขึ้น
ลึกซึ้ง กว้างขวางขึ้นต่อๆไป..." (๓๐ มิถุนายน ๒๕๑๙)
.....
ที่มา:
จริยา ทองหอม. (2559 ธันวาคม 10). ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช.
จาก https://www.facebook.com/profile.php?id=100001093292112
กระทรวงศึกษาธิการ.
(2554 มิถุนายน 15). พระราชดำริด้านการศึกษาของรัชกาลที่ 9.
สืบค้นเมื่อ
สืบค้นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2559.
จาก http://www.moe.go.th/5DEC/index.php?option
=com_content&view=article&id=26&Itemid=32
☆.....☆
☆☆
ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ☆☆
.....
กระบวนการเรียนรู้ของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
.....
ประเด็นคำถามต่อไป คือ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงพระราชทานกระบวนการเรียนรู้หรือการศึกษาไว้อย่างไร? เพื่อให้ได้มาซึ่งกระบวนการเรียนรู้ของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
พระองค์ทรงอธิบายวิธีการศึกษาหรือการเรียนรู้ไว้ว่า
"...ลักษณะของการศึกษาหรือการเรียนรู้นั้นมีอยู่สามลักษณะได้แก่
เรียนรู้ตามความคิดของผู้อื่นอย่างหนึ่ง เรียนรู้ด้วยการขบคิดพิจารณาของตนเองให้เห็นเหตุผลอย่างหนึ่ง
กับเรียนรู้จากการปฏิบัติฝึกฝนจนประจักษ์ผลและเกิดความคล่องแคล่วชำนาญอีกอย่างหนึ่ง
การเรียนรู้ทั้งสามลักษณะนี้ จำเป็นต้องกระทำไปด้วยกันให้สอดคล้อง
และอุดหนุนส่งเสริมกันจึงจะช่วยให้เกิดความรู้จริงพร้อมทั้งความสามารถที่จะนำมาใช้ทำการต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพได้..."
(๒๕ มิถุนายน ๒๕๒๔) จะเห็นว่าหลักการและวิธีการศึกษาที่ทรงแสดงนั้นเริ่มต้นตั้งแต่หลักการพื้นฐานของการศึกษาที่ตั้งอยู่บนหลักของเหตุและผล
อาจเริ่มต้นจาก 1)
การเรียนรู้ตามความคิดของผู้อื่น 2) การเรียนรู้ด้วยการขบคิดพิจารณาด้วยตนเอง และ3) การเรียนรู้จากการปฏิบัติฝึกฝนให้ได้ผลสำเร็จด้วยตนเอง
ดังนั้น การศึกษาที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์จะต้องมีหลักการ
กระบวนการเรียนรู้ที่ถูกต้อง และเป็นระบบด้วยจึงจะนำพาความรู้ไปสู่จุดหมายที่พึงประสงค์ได้
ดังพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า "...วิชาความรู้อันพึงประสงค์นั้น ได้แก่ วิชาความรู้ที่ถูกต้อง
ชัดเจน แม่นยำ ชำนาญ
นำไปใช้การเป็นประโยชน์ได้พอเหมาะพอควรทันต่อเหตุการณ์อย่างมีประสิทธิภาพ..."
(๒๖ มิถุนายน ๒๕๒๓)
☆.....☆
ที่มา:
จริยา ทองหอม. (2559 ธันวาคม 11). ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช.
จาก https://www.facebook.com/profile.php?id=100001093292112
กระทรวงศึกษาธิการ.
(2554 มิถุนายน 15). พระราชดำริด้านการศึกษาของรัชกาลที่ 9.
สืบค้นเมื่อ
สืบค้นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2559.
จาก http://www.moe.go.th/5DEC/index.php?option
=com_content&view=article&id=26&Itemid=32
☆.....☆
☆☆
ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ☆☆
.....
จุดหมายของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
.....
เมื่อตั้งประเด็นคำถามว่าจุดหมายของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงพระราชทานไว้อย่างไร? การสังเคราะห์จากแนวพระราชดำรัส
พบว่า
พระองค์ทรงสรุปจุดหมายของการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนไว้ว่า
"...วัตถุประสงค์ของการศึกษานั้นคืออย่างไร? กล่าวโดยรวบยอด คือ
การทำให้บุคคลมีปัจจัยหรืออุปกรณ์สำหรับชีวิตอย่างครบถ้วนเพียงพอทั้งในส่วนวิชาความรู้
ส่วนความคิด วินิจฉัย ส่วนจิตใจ และคุณธรรมความประพฤติ ส่วนความขยันอดทน
และความสามารถในการที่จะนำความรู้ความคิดไปใช้ปฏิบัติงานด้วยตนเองให้ได้จริงๆเพื่อสามารถดำรงชีพอยู่ได้ด้วยความสุขความเจริญมั่นคง
และสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่สังคมและบ้านเมืองได้ตามควรแก่ฐานะด้วย..." (๒๕ มิถุนายน ๒๕๒๓) จากกระแสพระราชดำรัสแสดงให้เห็นว่า
การศึกษาทำหน้าที่เป็นปัจจัยหรือเครื่องมือเพื่อให้บรรลุจุดหมายอันได้แก่
ประโยชน์ของผู้ศึกษาเอง (ตนเอง) และส่วนรวม (สังคมและบ้านเมือง) ทรงอธิบายว่า
"...งานของชาตินี้จะต้องอาศัยวิชาการทั่วทุกแขนง
ต้องสัมพันธ์กันแล้วดำเนินพร้อมกันไปโดยสอดคล้อง
จึงเป็นความจำเป็นที่แต่ละฝ่ายแต่ละคนจะต้องศึกษาเรียนรู้ถึงโครงการ
และความประสานสัมพันธ์ของงานส่วนรวมให้กระจ่างชัด เพื่อสามารถมองเห็นจุดรวมของงานทั้งหมดและสามารถประสานงานและส่งเสริมกันได้อย่างถูกต้องตรงจุดงานของชาติจักได้สัมฤทธิ์ผล..."
(๓๑ ตุลาคม ๒๕๒๐)
จากที่กล่าวมานี้จะเห็นว่าของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดฃมหาราชสรุปได้เป็น
3 ประการ ดังนี้
๑)
การศึกษามุ่งสร้างคุณประโยชน์ให้แก่บุคคลและสังคมส่วนรวมโดยเฉพาะประเทศชาติ
ซึ่งถือว่าเป็นจุดหมายสูงสุดของการศึกษา ๒)
การศึกษามุ่งพัฒนาองค์ความรู้ให้ก้าวสูงขึ้นเพื่อจะช่วยพัฒนาขีดความสามารถของคนให้สูงขึ้นที่จะได้ปฏิบัติหน้าที่ให้บรรลุจุดหมายในข้อแรกได้มากขึ้น
และ ๓)
การศึกษามุ่งพัฒนาศักยภาพของแต่ละบุคคลที่มีให้ปรากฏออกมาเป็นความสามารถที่จะก่อประโยชน์ให้แก่ตนเองและสังคมส่วนรวมตามจุดหมายในข้อแรกเช่นกัน
☆.....☆
ที่มา:
จริยา ทองหอม. (2559 ธันวาคม 12). ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช.
จาก https://www.facebook.com/profile.php?id=100001093292112
กระทรวงศึกษาธิการ.
(2554 มิถุนายน 15). พระราชดำริด้านการศึกษาของรัชกาลที่ 9.
สืบค้นเมื่อ
สืบค้นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2559.
จาก http://www.moe.go.th/5DEC/index.php?option
=com_content&view=article&id=26&Itemid=32
☆.....☆
☆☆
ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ☆☆
.....
องค์ประกอบของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
.....
"...การศึกษาเป็นเครื่องมือหรือปัจจัยไปสู่จุดหมาย..."
การศึกษาในความหมายนี้มีองค์ประกอบสำคัญ 4
ประการที่จะช่วยให้สามารถบรรลุจุดหมายของการศึกษาตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชทรงแสดง
และสะท้อนถึงพระอัจฉริยะภาพด้านปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ความตอนหนึ่งว่า
"...
๑. ส่วนวิชาความรู้ ได้แก่ วิชาการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องต่างๆที่ศึกษาอย่างถูกต้องครบถ้วน
๒. ส่วนความคิดวินิจฉัย ได้แก่ ความสามารถของการขบคิดพิจารณาและวินิจฉัยในเรื่องที่ศึกษาและความเป็นจริงที่ปรากฏ
ซึ่งจัดเป็นส่วนหนึ่งของวิธีการหรือกระบวนการคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผลของผู้ศึกษา
๓. ส่วนจิตใจและคุณธรรม ได้แก่ การพัฒนาจิตใจให้มีความสุจริตและบริสุทธิ์ใจที่จะใช้วิชาความรู้เพื่อประโยชน์ในทาง
ที่ดีต่อตนเองและส่วนรวม
ซึ่งเป็นการกำกับความประพฤติของคนให้ดำเนินไปอย่างถูกต้องโดยเฉพาะเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
๔.
ส่วนความขยันอดทน ได้แก่ การฝึกฝนให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความขยันและมีความอดทนต่อปัญหาหรืออุปสรรคที่ขัดขวางไม่ให้บรรลุจุดหมายที่กำหนดไว้..."
☆.....☆
ที่มา:
จริยา ทองหอม. (2559 ธันวาคม 13). ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช.
จาก https://www.facebook.com/profile.php?id=100001093292112
กระทรวงศึกษาธิการ.
(2554 มิถุนายน 15). พระราชดำริด้านการศึกษาของรัชกาลที่ 9.
สืบค้นเมื่อ
สืบค้นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2559.
จาก http://www.moe.go.th/5DEC/index.php?option
=com_content&view=article&id=26&Itemid=32
☆.....☆
☆☆
ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ☆☆
.....
คุณลักษณะบุคคลของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
.....
การศึกษาตามแนวพระราชดำริไม่ใช่สิ่งที่สิ้นสุดในตัวเองจึงเป็นปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
เป็นเครื่องมือนำพาบุคคลและประเทศชาติไปสู่จุดหมายที่ดีงาม
การใช้ความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาเพื่อนำไปสู่จุดหมายของตนเองและส่วนรวมที่ดีงามนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลเดชมหาราช
ทรงเน้นความสำคัญของความรู้เชิงความประพฤติเพื่อกำกับการใช้วิชาความรู้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างแท้จริงเป็นอย่างมาก
ดังนั้น การศึกษาเพื่อปลูกฝังคุณลักษณะแก่บุคคลให้เป็นผู้มีวิชาความรู้
จะต้องกระทำควบคู่ไปกับการเรียนรู้เชิงวิชาการด้วย
พระองค์ทรงอธิบายคุณลักษณะที่กล่าวว่า
"...ผู้ที่มีวิชาการแล้วจำเป็นจะต้องมีคุณสมบัติในตัวเอง
นอกจากวิชาความรู้ด้วยจึงจะนำตน นำชาติให้รอดและเจริญได้
คุณลักษณะที่จำเป็นสำหรับทุกคนนั้น ได้แก่ ความละอายชั่วกลัวบาป
ความซื่อสัตย์สุจริตทั้งในความคิด
และการกระทำความกตัญญูรู้คุณชาติบ้านเมืองและผู้มีอุปการะตัวมา ความไม่เห็นแก่ตัว
ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น หากแต่มีความจริงใจ มีความปรารถนาดีต่อกัน เอื้อเฟื้อกันตามฐานะและหน้าที่
และที่สำคัญอย่างมากก็คือ ความขยันหมั่นเพียร พยายามฝึกหัดประกอบการงานทั้งเล็ก
ใหญ่ ง่าย ยาก ด้วยตนเอง ด้วยความตั้งใจ ไม่ทอดทิ้ง ไม่ทอดธุระ
เพื่อหาความสะดวกสบาย จากการเกียจคร้าน ไม่มักง่าย หยาบคาย สะเพร่า..." (๘
มิถุนายน ๒๕๒๒) คุณลักษณะบุคคล 7 ประการ
ดังที่กล่าวมาข้างต้นจะช่วยกำกับให้ผู้มีวิชาความรู้
ใช้วิชาความรู้เพื่อปฏิบัติงานให้บรรลุผลสำเร็จตามจุดหมายของการศึกษา ประกอบด้วย ๑) ความละอายชั่วกลัวบาป ๒)
ความซื่อสัตย์สุจริต ๓) ความกตัญญูรู้คุณ ๔) ความไม่เห็นแก่ตัว ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น
๕) ความจริงใจ ๖) ความปรารถนาดี เอื้อเฟื้อต่อกัน
และ ๗) ความขยันหมั่นเพียร
☆.....☆
ที่มา:
จริยา ทองหอม. (2559 ธันวาคม 14). ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช.
จาก https://www.facebook.com/profile.php?id=100001093292112
กระทรวงศึกษาธิการ.
(2554 มิถุนายน 15). พระราชดำริด้านการศึกษาของรัชกาลที่ 9.
สืบค้นเมื่อ
27
พฤศจิกายน 2559. จาก
http://www.moe.go.th/5DEC/index.php?option
=com_content&view=article&id=26&Itemid=32
☆.....☆
☆☆ ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ☆☆
.....
บทสรุปปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
.....
บทความ เรื่อง
ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
เป็นการน้อมนำปรัชญาแห่งการศึกษาของพระองค์ที่ทรงชี้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างการศึกษา
วิชาความรู้ และผลแห่งการใช้วิชาความรู้ทางวิชาการ (ทฤษฎี) และในทางธรรม (ปฏิบัติ)
มาใช้เพื่อเป็นหลักประกันที่จะช่วยกันธำรงรักษาไว้ซึ่งความเจริญก้าวหน้าและความมั่นคงของประเทศชาติอันเป็นเป้าหมายสูงสุดของแนวพระราชดำริที่ทรงเพียรพระราชทานแก่พสกนิกรของพระองค์ที่จะได้เข้าใจ
และปฏิบัติตามตลอดรัชสมัยของพระองค์ สมดังพระราชกระแสที่ว่า
"...การที่มีการศึกษาสมบูรณ์แล้วนี้ทำให้แต่ละคนหลีกเลี่ยงไม่ได้จากความรับผิดชอบที่จะต้องใช้ความรู้
สติปัญญาของตนให้เป็นประโยชน์และเป็นความเจริญวัฒนาแก่บ้านเมืองและส่วนรวม..."(๑๒
กรกฎาคม ๒๕๑๖) โดยจัดระบบการเขียนเป็นบทความสั้น ๆ
เป็นตอน ๆ เพื่อให้ง่ายแก่การทำความเข้าใจ จำแนกเป็น 8 ประการ
ประกอบด้วย 1)
ความหมายของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน 2)
ขอบเขตของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน 3)
หลักการของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน 4)
ทฤษฎีของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน 5)
กระบวนการเรียนรู้ของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน 6)
จุดหมายของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน 7)
องค์ประกอบของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน และ 8) คุณลักษณะบุคคลของปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ด้วยคุณค่าขององค์ความรู้แห่งแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเช่นกล่าวนี้จึงเป็นสิ่งที่ถูกต้องสมควรที่ปวงประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าจะน้อมนำปรัชญาแห่งการศึกษาของพระองค์มาใช้สมดังพระราชปณิธานที่ได้พระราชทานแนวพระราชดำริที่สำคัญด้านการศึกษาไว้ให้เป็นสมบัติของประชาชน
และประเทศชาติตลอดไป
☆.....☆
ที่มา:
จริยา ทองหอม. (2559 ธันวาคม 15). ปรัชญาการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช.
จาก https://www.facebook.com/profile.php?id=100001093292112
กระทรวงศึกษาธิการ.
(2554 มิถุนายน 15). พระราชดำริด้านการศึกษาของรัชกาลที่ 9.
สืบค้นเมื่อ
สืบค้นเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2559.
จาก http://www.moe.go.th/5DEC/index.php?option
=com_content&view=article&id=26&Itemid=32
☆.....☆